องค์การบริหารส่วนตำบลหน่อม

ยินดีต้อนรับสู่ อบต.หน่อม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด +++งานแข่งเรือยิ่งใหญ่ ห้วยไส้ไก่ใสงามตา ในธาราปลามากมี ไหมมัดหมี่ลือชื่อ คนเลื่องลือถิ่นข้าวหลาม แสนงดงามประเพณี รสชาติดีกุ้งก้ามกราม คือนามตำบลหน่อม
หัวข้อ :: อุโบสถโบราณสถานวัดบ้านฟ้าเลื่อม


ประวัติการสร้างอุโบสถ

            อุโบสถ วัดราศีไสล หลวงปู่โสพร้อมด้วยญาติโยม ร่วมใจกันสร้าง โดยหลวงปู่เองเป็นผู้ออกแบบ โดยอาศัยกำลังชาวบ้าน และพระภิกษุ-สามเณรช่วยกันปั้นอิฐ หาฟืนมาเผาอิฐและเผาปูน ในสมัยนั้นยังไม่มีปูนซีเมนต์ ท่านให้ชาวบ้านเอาเปลือกหอยมาเผาเป็นปูนบ้าง เอาหินปูนมาเผาเป็นปูนบ้าง เป็นการลำบากที่สุด ตลอดจนตะปูก็ไม่มี ท่านหาเอาเหล็กมาตีเป็นตะปูคิดดูแล้วทำเองหมด ตลอดทรายก็ให้ชาวบ้านไปหาบมาเอง ลงมือก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ใช้เวลาก่อสร้างอยู่ ๓-๔ ปี กำแพงด้านนอก กว้าง × ยาว ๕ × ๑๕ เมตร ตัวอุโบสถขนาด กว้าง × ยาว × สูง ๔ × ๙ × ๙ เมตร สัณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทางขึ้นด้านเดียว พื้นสูง ๑.๓๐ เมตร สร้างด้วยอิฐถือปูน มีฐานย่อมุมโค้งงอน คล้ายกับบัว ปั้นลมและสลักรูปนาค มีคันทวยสลักไม้เนื้อแข็งเป็นรูปพญานาค อ่อนช้อย สวยงามมาก ที่มุมกำแพงทั้ง ๔ ทิศ มีใบเสมารูปปลายศรแต่กลาบบัวหัวเสา หลังคามุงด้วยแผ่นไม้ มาเปลี่ยนเป็นสังกะสี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เมื่อจะคิดทุนทรัพย์ในการก่อสร้างในสมัยนั้น ๑๒ ตำลึง=๔๘ บาทในปัจจุบัน ซึ่งยังอยู่ในสภาพที่ดี ภานในอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยและยังเป็นที่ทำสังฆกรรมของสงฆ์จนถึงทุกวันนี้






 

*************************************
 
ประวัติการสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิของพระธัมมโสภติ
 

ธาตุ หรือเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่นั้น สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ โดยหลวงปู่โสเองเป็นผู้ดำริคิดสร้างขึ้น เมื่อท่านพิจารณาสังขารของท่านเองว่า “ชราแล้วไม่มีทางที่จะหนุ่มแน่นกลับคืนมาอีกเสียแล้ว เมื่อละสังขารลงไปเมื่อไร อัฐินี้ใครจะทำธาตุหรือเจดีย์ใส่ให้ พวกลูกศิษย์ลูกหาก็อยู่ไกล ยากที่จะมาทำให้ได้ และไม่รู้ว่าจะมีใครมาทำให้หรือเปล่า เพราะเราไม่เห็นอีกเสียด้วย ฉะนั้น เราทำให้เราเห็นก่อนมรณะเกิดคือให้เห็นกับตา” เมื่อคิดดังนี้แล้ว ท่านก็ประชุมชวนชาวบ้านลูกๆ หลานๆ พวกลูกหลานและชาวบ้านก็เห็นพร้อมทุกประการ จากนั้นก็ลงมือปั้นอิฐ เริ่มลงมือก่อสร้างปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ใช้เวลาก่อสร้างอยู่ ๓ ปี ในระยะนั้นปูนซีเมนต์มีแล้วแต่ไม่มาก ท่านใช้ปูนซีเมนต์เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่จะใช้ปูนที่ทำจากเปลือกหอยและจากหินปูน ขนาด กำแพงรอบนอก เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านเท่า ๑๒ × ๑๒ เมตร ตัวเจดีย์ กว้าง×ยาว×สูง ๖×๖×๑๕ เมตร สัณฐานเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง ๖ ชั้น เลียนแบบพระธาตุพนม อันเป็นศิลปกรรมยอดนิยมในสมัยนั้น วัสดุในการก่อสร้าง ท่านได้ทำแบบประหยัดคือส่วนใหญ่นั้นท่านทำเอง หรือทำจากเปลือกหอยบ้าง จากหินปูนบ้าง ทรายอย่างนี้ ท่านก็ให้ชาวบ้านไปหาบเอง สิ้นค้าก่อสร้างในสมัยนั้นเพียง ๕๐๐ บาท อัฐิของ พระธมฺมโสภติ (หลวงปู่โสธมฺมปาโล) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่เคารพของศิษย์ยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
 

 




 

 
วันที่ : 7 พฤศจิกายน 58   View : 1953